“ทวี” อัดรัฐต่อสัญญาBEM-เขากระโดง ไม่ไว้วางใจ “นายกฯ-ศักดิ์สยาม”
(15 กุมภาพันธ์ 2566) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อาคารรัฐสภาว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส. บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ อภิปรายในญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า การที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแก้ไขสัญญาโครงการทางด่วนขั้นที่ 2A โดยให้ขยายอายุสัญญาสัมปทานออกไปอีก 15 ปี 8 เดือน ให้กับ บริษัท ทางด่วน และ รถไฟฟ้า กรุงเทพ จำกัด หรือ BEM เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 63 ถือเป็นการปล้นสาธารณสมบัติแผ่นดิน รีดเอาทรัพย์กับประชาชน แทนที่จะได้จ่ายค่าทางด่วนถูกลง เพราะถ้าครบสัญญาจะต้องเปิดเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน แต่กลายเป็นอีกไม่กี่ปี ค่าทางด่วนจะถูกปรับเพิ่มขึ้นอีก ทำให้เอกชนกลายเป็นเสือนอนกิน ทั้งที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำตัดสินออกมาแล้ว นายกฯ และ ครม. ได้ดำเนินการอย่างไร และศาลฯก็เห็นด้วยที่ค่าทางด่วนต้องต่ำลง เงินก้อนนี้แทนที่รัฐบาลจะได้ใช้ แค่กลับไปเป็นของคนภายนอกที่เป็นพวกพ้อง
ส่วนปัญหาที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน ทางพรรคประชาชาติ ได้เสนอแก้ไขร่าง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ในพื้นที่แต่เดิมมาก่อนการประกาศเป็นเขตอุทยานฯ เพื่อให้มีกรรมสิทธิ์อยู่ต่อไปได้ โดยเป็นกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับการเงิน เพราะหากรัฐรังแกประชาชนก็ต้องมีการเยียวยา แต่สุดท้ายรัฐบาลไม่รับกฎหมายนี้ นอกจากนี้ยังพูดถึงที่ดินในความดูแลของการรถไฟฯ ด้วย
ในระหว่างนี้ นายสนอง เทพอักษรณรงค์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ได้ลุกขึ้นประท้วง ขอให้ประธานฯควบคุมการประชุม ขณะที่นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้วินิจฉัยว่า ไม่ผิดข้อบังคับ สามารถพูดต่อได้
จากนั้น นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงประธาน โดยขอให้ควบคุมการประชุมอย่างเข้มข้น สุดท้าย นายศุภชัย ก็ยังย้ำว่า ผู้อภิปรายยังไม่ผิดข้อบังคับขอให้สมาชิกเข้าใจด้วย